ใบวางบิล คือเอกสารที่ใช้ในการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าหรือผู้ซื้อ โดยผู้ขายหรือผู้ให้บริการจะออกใบวางบิลเพื่อแจ้งรายละเอียดของยอดเงินที่ค้างชำระหรือยอดเงินที่ต้องชำระสำหรับสินค้าหรือบริการที่ได้จัดส่งหรือนำเสนอไปแล้ว ใบวางบิลมักจะระบุข้อมูลต่าง ๆ
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ
- รายละเอียดของสินค้าหรือบริการ
- ยอดเงินที่ต้องชำระ (รวม VAT หรือไม่รวม)
- วันที่ครบกำหนดชำระ
- วิธีการชำระเงินที่ยอมรับ (เช่น เงินสด, โอน, บัตรเครดิต)
ใบวางบิลเป็นเอกสารสำคัญที่ช่วยในการติดตามการชำระเงินและจัดการด้านบัญชีให้มีประสิทธิภาพ.
เข้าสู่เมนูใบวางบิล
เข้าไปที่เมนู Order to Cash
และเลือกเมนู ใบวางบิล
คลิกปุ่มเพื่ม
คลิกที่ปุ่ม เพิ่ม
เพื่อสร้างรายการใหม่สำหรับการสร้างใบวางบิล
หลังจากนั้น จะปรากฏหน้าต่างตามภาพ
ฟิลด์ | คำอธิบาย |
---|---|
เลขที่เอกสาร | หมายเลขที่ใช้ระบุเอกสารเฉพาะ (ไม่สามารถแก้ไขได้) |
วันที่เอกสาร | สามารถเลือกวันที่ของเอกสารสำหรับการบันทึกและข้อมูลจะแสดงในรายงานต่าง ๆ |
รหัสผู้จำหน่าย | คุณสามารถเลือกรหัสผู้จำหน่ายจากรายชื่อคู่ค้าที่มีอยู่ |
วันนัดชำระ | สามารถเลือกวันที่ของวันนัดชำระได้สำหรับการบันทึกและข้อมูลจะแสดงในรายงานต่าง ๆ |
ประเภทภาษี | สามารถเลือกได้ 7.00%, 1.50%, 10.00%, ไม่มี VAT และ 0.00% |
VAT | แยกนอก หมายถึง N = เอกสารใบนี้มีภาษีมูลค่าเพิ่มรวมอยู่ในราคาของสินค้าแล้ว, Y = เอกสารใบนี้มีการแยกภาษีออกจากราคาสินค้า |
หน่วยเงิน | เลือกสกุลเงินที่ใช้ในการทำธุรกรรม เช่น THB (บาทไทย) |
อัตราแลกเปลี่ยน | หากใช้สกุลเงินต่างประเทศ ให้ระบุอัตราแลกเปลี่ยน |
หมายเหตุ | ระบุคำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายการนี้ |
เลขที่อ้างอิง | เลขที่อ้างอิง invoice |
จำนวนเงิน | จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องกับเอกสารนั้น ๆ |
ค้างชำระ | ยอดค้างชำระจากเอกสารอ้างอิงแต่ละรายการ |
ยอดชำระ | จำนวนเงินที่ต้องชำระตามใบวางบิลนี้ |
รวม | ยอดรวมทั้งหมดของเอกสารนี้ |
เลือกใบกำกับภาษี
เลือกใบกำกับภาษีที่ต้องการวางบิล
- สร้างใบแจ้งหนี้/ใบกำกับภาษี ใช้สำหรับวางบิลทั่วไปหรือวางบิลสำหรับงานบริการที่ไม่จำกัดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ใบส่งของ/ใบแจ้งหนี้ เลือกตัวเลือกนี้หากต้องการวางบิลสำหรับใบส่งของหรือใบแจ้งหนี้ที่ออกมาโดยไม่มีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
ตัวเลือกเหล่านี้ช่วยให้คุณระบุได้ว่ากำลังวางบิลสำหรับการขายสินค้าแบบปกติหรือบริการพิเศษที่อาจไม่มีการจำกัด VAT.
บันทึกเอกสาร
ตรวจสอบข้อมูล จากนั้นกด บันทึก
ตรวจสอบข้อมูล
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมด เช่น วันที่
ชื่อผู้ลูกค้า
ยอดเงิน
และยอดชำระ
ถูกต้องครบถ้วน หากพบข้อผิดพลาดก็สามารถทำการแก้ไขเอกสารได้